ลู่วิ่งไฟฟ้า ราคา สุดพิเศษ Treadmill รับประกันสินค้า 1 ปี

1. พิจารณาจากพื้นที่ที่ติดตั้งลู่วิ่งไฟฟ้าก่อนเป็นอันดับแรก

เริ่มจากการตรวจดูขนาดของลู่วิ่ง และนำขนาดของแต่ละรุ่นของลู่วิ่งไฟฟ้านั้น ไปวัดกับพื้นที่จริง โดยควรเผื่อพื้นที่รอบเครื่องอย่างน้อย 50 เซนติเมตร และให้ตรวจสอบระบบไฟฟ้ารวมไปถึงปลั๊กไฟ ก่อนทำการซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ปลั๊กของเครื่องออกกำลังกายลู่วิ่งนั้นตึงจนเกินไป

2. ตรวจสอบงบประมาณที่มีและประเภทการใช้งาน

หากอยากเดินหรือวิ่งเบาๆเน้นวิ่งออกกำลังกายที่บ้านเพื่อสุขภาพ ให้เลือกลู่วิ่งราคาไม่เกิน 5000 หรือลู่วิ่งไฟฟ้าราคาถูกก่อน แต่ถ้าอยากวิ่งออกกำลังกายแบบทั่วไปหรือเพิ่มความจริงจังขึ้นมาสักเล็กน้อย ให้ลองเลือกลู่วิ่งระดับกลาง เพราะจะมีฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากกว่าลู่วิ่งราคาถูก แต่ถ้าอยากจริงจังกับการลดน้ำหนักหรืออยากฝึกซ้อมจริงจังหรือวิ่งลดน้ำหนักแบบจริงจังเพื่อไปแข่งวิ่งตามงานวิ่งต่างๆ สามารถซื้อลู่วิ่งระดับพรีเมียมได้เลย เพราะมีฟังก์ชันที่หลากหลายและสามารถติดตามผลได้อย่างต่อเนื่อง

3. การรับน้ำหนักของลู่วิ่งไฟฟ้า

การเลือกเครื่องออกกำลังกายลู่วิ่ง ต้องคำนึงถึงการรับน้ำหนัก เพราะการใช้งานลู่วิ่งที่เกินน้ำหนักกว่าเครื่องรับไหวอาจส่งผลโดยตรงต่อมอเตอร์ลู่วิ่งและระบบสายพานลู่วิ่ง ทำให้ลู่วิ่งไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยให้เลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่รับน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักตัวเองอย่างน้อย 10-15กิโลมกรัม สำหรับผู้มีน้ำหนักมากอยากให้เริ่มจากการเดินลู่วิ่งก่อนเพื่อลดแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้น เพื่อความคุ้มค่าที่สุดควรแจ้งน้ำหนักสูงสุดของผู้ใช้งานให้ทางร้านทราบก่อน เพื่อเลือกลู่วิ่งที่เหมาะสมให้กับคุณ

4. การรับประกันและบริการหลังการขาย

ที่ Homefittools นั้นรับประกันหลังการขาย 1ปี และรับประกันมอเตอร์ 5ปี อีกทั้งมีบริการจัดส่งลู่วิ่งไฟฟ้าถึงบ้าน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันลู่วิ่งไฟฟ้า และยังมีสิทธิพิเศษ โปรโมชั่นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น การปรึกษาเทรนเนอร์ก่อนเลือกซื้อ เครื่องวิ่งออกกำลังกาย และมีการรับประกันอื่นๆอีกมากมายทั้งระบบไฟฟ้าเครื่องวิ่ง, บริการซ่อมลู่เดินไฟฟ้า

1. ควบคุมน้ำหนักและเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างใจนึก

การวิ่งลู่เป็นการออกกำลังกายที่เผาผลาญพลังงานได้ดีและใช้พลังงานสูง โดยการวิ่งบนลู่วิ่งแค่ 30 นาทีสามารถเผาผลาญได้ถึง 300-400 แคลอรี่ซึ่งเหมาะสมสำหรับคนที่อยากวิ่งลดน้ำหนัก อีกทั้งสามารถปรับความเร็วและความชันได้ตามต้องการ หากรู้สึกเหนื่อยเกินไปหรือวิ่งแล้วปวดน่องจนเกินไป ก็สามารถปรับระดับได้

2. สะดวกสบายและประหยัดเวลา

การมีลู่วิ่งไฟฟ้าติดบ้านไว้นั้นช่วยทำให้คุณสามารถวิ่งออกกำลังกายได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องคำนึงหรือกังวลถึงสภาพอากาศ ฝนตก แดดออก ฝุ่น PM2.5 คุณก็สามารถวิ่งบนลู่ได้เสมอ อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางเพื่อไปฟิตเนส

3. ปลอดภัยและเหมาะกับทุกคน

ลู่วิ่งไฟฟ้ามีระบบรองรับแรงกระแทกที่ดีกว่าพื้นปกติ ทำให้ข้อต่อไม่ว่าจะเป็นข้อเข่าหรือข้อเท้านั้นได้รับการกระแทกน้อยลง ทำให้วิ่งแล้วไม่ปวดเข่า ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นวิ่งออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่า อีกทั้งเครื่องวิ่งออกกำลังกายยังมีระบบ Safety Key ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

4. เสริมสร้างกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย

การวิ่งบนลู่วิ่งไม่เพียงแต่ได้แค่การเผาผลาญแคลอรี่เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้อีกด้วย โดยเฉพาะในส่วนของกล้ามเนื้อขาและแกนกลางลำตัว อีกทั้งการปรับระดับความชันของลู่วิ่งนั้นช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อได้มากขึ้น ทำให้การวิ่งออกกำลังกาย บนลู่วิ่งไฟฟ้ามีประสิทธิภาพกว่าการวิ่งบนพื้นปกติ เพราะลู่วิ่งไฟฟ้านั้นมีโปรแกรมการวิ่งที่หลากหลาย ผู้ที่วิ่งออกกำลังกายสามารถปรับได้ตามใจชอบ หรือสามารถเลือกใช้โปรแกรมวิ่งตามที่ระบบติดตั้งมาให้ได้ด้วยเช่นกัน

1. หมั่นทำความสะอาดทุกวัน

การดูแลลู่วิ่งไฟฟ้าหลังใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ ควรทำความสะอาดสายพานลู่วิ่งและพื้นผิวด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดคราบเหงื่อและฝุ่นออก โดยเฉพาะบริเวณที่จับและแผงควบคุม เพื่อป้องกันคราบสกปรกสะสมที่อาจทำให้เครื่องออกกำลังกายลู่วิ่งเสื่อมสภาพเร็ว

2. การตรวจเช็คและหยอดน้ำมัน

• ตรวจสอบสายพานลู่วิ่งทุก 1-2 เดือน
• หยอดน้ำมันซิลิโคนทุก 3 เดือนหรือทุก 150 ชั่วโมงการใช้งาน
• ตรวจสอบน็อตและสกรูทุก 6 เดือน
• ทำความสะอาดมอเตอร์ลู่วิ่งและระบบขับเคลื่อนทุก 6 เดือน

3. การปรับตั้งสายพาน

ควรตรวจสอบความตึงของสายพานลู่วิ่งเป็นประจำ หากพบว่าสายพานหย่อนหรือเยื้องไปด้านใดด้านหนึ่ง ให้ปรับความตึงทันที เพราะสายพานที่หลวมอาจทำให้มอเตอร์ลู่วิ่งทำงานหนักเกินไป

Q : ลู่วิ่งไฟฟ้าใช้ไฟเยอะไหม และควรใช้ไฟกี่แอมป์?
A : ลู่วิ่งไฟฟ้าโดยทั่วไปใช้ไฟประมาณ 1,500-3,000 วัตต์ ควรใช้เบรกเกอร์ขนาด 16 แอมป์ขึ้นไป และควรเสียบปลั๊กโดยตรงกับผนัง ไม่ควรใช้ปลั๊กพ่วง

Q : น้ำหนักเท่าไหร่ถึงจะสามารถวิ่งบนลู่วิ่งได้?
A : ขึ้นอยู่กับรุ่นของลู่วิ่ง โดยทั่วไปรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 100-150 กิโลกรัม แต่ควรเลือกรุ่นที่รับน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักตัวอย่างน้อย 15-20 กิโลกรัม เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน

Q : ต้องหยอดน้ำมันลู่วิ่งบ่อยแค่ไหน?
A : ควรหยอดน้ำมันซิลิโคนทุก 3 เดือน หรือทุกๆ 150 ชั่วโมงการใช้งาน เพื่อให้สายพานลู่วิ่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Q : พื้นที่ขนาดเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอสำหรับติดตั้งลู่วิ่ง?
A : ควรมีพื้นที่มากกว่าขนาดลู่วิ่งอย่างน้อย 50 ซม.โดยรอบ และควรเว้นด้านหลังอย่างน้อย 2 เมตรเพื่อความปลอดภัย

Q : ลู่วิ่งไฟฟ้าเหมาะกับผู้สูงอายุไหม?
A : เหมาะสม เพราะลู่วิ่งไฟฟ้ามีระบบรองรับแรงกระแทก สามารถปรับความเร็วได้ และมีราวจับเพื่อความปลอดภัย แต่ควรเริ่มจากการเดินก่อน

Q : ลู่วิ่งแบบไหนเหมาะกับการวิ่งลดน้ำหนัก?
A : ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้าแบบสายพานโค้งจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีกว่า แต่ถ้าเป็นมือใหม่แนะนำลู่วิ่งไฟฟ้าเพราะควบคุมความเร็วได้ง่ายกว่า

Q : ควรซื้อลู่วิ่งราคาเท่าไหร่ดี?
A : ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สำหรับเดินลู่วิ่งหรือวิ่งเบาๆ เลือกลู่วิ่งราคาถูก 5,000-10,000 บาท แต่ถ้าต้องการใช้งานหนัก ควรเลือกรุ่นพรีเมียมที่มีมอเตอร์แรงกว่า

Q : มอเตอร์ขนาดเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับการใช้งานที่บ้าน?
A : สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าใช้ในบ้าน แนะนำมอเตอร์ขนาด 2.0-3.0 แรงม้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการวิ่งทั่วไป 1-2 ชั่วโมงต่อวัน

Q : ลู่วิ่งต้องมีการรับประกันนานแค่ไหน?
A : ควรมีการรับประกันโครงสร้างอย่างน้อย 1 ปี และรับประกันมอเตอร์ 3-5 ปี โดย Homefittools รับประกันมอเตอร์นานถึง 5 ปี

Q : ลู่วิ่งมีระบบพับเก็บหรือไม่?
A : มีหลายรุ่นที่สามารถพับเก็บได้ โดยเฉพาะลู่วิ่งขนาดเล็กสำหรับบ้าน ช่วยประหยัดพื้นที่เมื่อไม่ได้ใช้งาน

การวิ่งลู่วิ่งให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มจากการเลือกtreadmillที่เหมาะสม ในฐานะผู้นำด้านลู่วิ่งที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี Homefittools นำเสนอทั้งลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้าและเครื่องวิ่งคุณภาพสูง พร้อมราคาลู่วิ่งไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ทุกงบประมาณ

1. เลือกสเปคลู่วิ่งตามผู้ใช้งาน

• น้ำหนัก >100 กก.: เลือกลู่วิ่งไฟฟ้ามอเตอร์ >3.0 แรงม้า
• น้ำหนัก <100 กก.: เครื่องวิ่งมอเตอร์ 1-2.5 แรงม้า
• มีทั้งลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้าและลู่เดินไฟฟ้าให้เลือก

2. ความยาวสายพานtreadmillเหมาะกับส่วนสูง การวิ่งลู่วิ่งที่มีประสิทธิภาพ ต้องเลือกขนาดให้เหมาะสม:

• ส่วนสูง ≤180 ซม.:
• เดิน: สายพาน 100 ซม.
• วิ่ง: สายพาน 120 ซม.
• ส่วนสูง >180 ซม.:
• เดิน: สายพาน 130 ซม.
• วิ่ง: สายพาน 140 ซม.

3. ฟังก์ชันลู่วิ่งไฟฟ้าครบครันเครื่องวิ่งออกกำลังกาย ราคาคุ้มค่า มาพร้อมฟังก์ชัน:

• ปรับความชันลู่เดินไฟฟ้าอัตโนมัติ
• ระบบความปลอดภัยtreadmillมาตรฐาน
• จอ LED แสดงผลการวิ่งลู่วิ่งครบถ้วน
• วัดชีพจรขณะใช้เครื่องวิ่ง

4. พื้นที่ติดตั้งลู่วิ่ง

• คำนวณพื้นที่วางลู่วิ่งไฟฟ้า
• ปรึกษาการจัดวางเครื่องวิ่งฟรี
• ติดตั้งลู่เดินไฟฟ้าโดยช่างมืออาชีพ

5. เลือกมอเตอร์ treadmill ตามการใช้งานราคาลู่วิ่งไฟฟ้าต่างกันตามประเภทมอเตอร์:

• มอเตอร์ DC: เหมาะกับวิ่งลู่วิ่ง 1-2 คน
• ประหยัด
• กะทัดรัด
• มอเตอร์ AC: เหมาะกับลู่วิ่งไฟฟ้า 3 คนขึ้นไป
• ทนทาน
• ใช้งานต่อเนื่อง

กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าดีๆ สักเครื่องอยู่หรือเปล่า? Homefittools มีคำตอบให้คุณ! ไขข้อสงสัยใช้ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นไหนดี เรามีลู่วิ่งหลากหลายรุ่นที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ สำหรับมือใหม่ เรามีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นที่กะทัดรัด เหมาะกับพื้นที่จำกัด แต่มาพร้อมฟังก์ชั่นครบครัน และสำหรับนักวิ่งตัวจริง กับลู่วิ่งไฟฟ้าเกรดฟิตเนส

บทความแนะนำ: ลู่วิ่งไฟฟ้าขนาดเล็ก ฟังก์ชั่นครบ งบไม่เกิน 10,000 บาท

เมื่อพูดถึง การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี หลายคนมักนึกถึงการวิ่งหรือเดินเป็นอันดับแรก แต่ด้วยข้อจำกัดของสภาพอากาศและพื้นที่ในการออกกำลังกาย ทำให้หลายคนต้องมองหาตัวเลือกอื่น และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ เครื่องออกกำลังกาย ชนิดนี้กลายเป็นอุปกรณ์ฟิตเนสยอดนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา