ติดต่อเจ้าหน้าที่
×
×
เครื่องออกกำลังกาย อุปกรณ์ออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส
view-th view-en
ตะกร้า 0 ตะกร้าสินค้า

เวทเทรนนิ่งสำหรับผู้หญิง ฟิตหุ่นด้วยน้ำหนักตัว ไม่ง้ออุปกรณ์

เวทเทรนนิ่งสำหรับผู้หญิง ฟิตหุ่นด้วยน้ำหนักตัว ไม่ง้ออุปกรณ์

สวัสดีครับ โค้ชปูแน่นเองนะครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การเทรนผู้หญิงมากกว่า 10 ปี เรื่องการเวทเทรนนิ่งแบบใช้น้ำหนักตัวสำหรับผู้หญิง ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เลย จากประสบการณ์ที่ผมได้เทรนลูกค้าผู้หญิงที่ Real Gym มาหลายท่าน สิ่งที่ผมได้ยินบ่อยที่สุดคือ "หนูกลัวตัวใหญ่ค่ะโค้ช" หรือ "ไม่มีเวลาไปยิมเลยค่ะ" วันนี้ผมเลยอยากมาไขข้อสงสัยและแชร์วิธีการออกกำลังกายที่จะทำให้คุณผู้หญิงมีหุ่นสวย กระชับ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะบึกเกินไป เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมมีลูกค้าคนหนึ่งที่เริ่มต้นจากการเวทเทรนนิ่งด้วยน้ำหนักตัวที่บ้าน เธอทำตามโปรแกรมที่ผมแนะนำอย่างตั้งใจ ผ่านไป 3 เดือน น้ำหนักลดลง 5 กิโลกรัม และที่สำคัญคือกล้ามเนื้อกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในบทความนี้ผมจะพาคุณไปเรียนรู้

1.วิธีการสร้างกล้ามเนื้อที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิง

2.เทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกต้องและปลอดภัย

3.การวางแผนการฝึกให้เห็นผล

4.เคล็ดลับการสร้างแรงจูงใจ

ผมได้รวบรวมงานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ยืนยันว่าการเวทเทรนนิ่งด้วยน้ำหนักตัวนั้นให้ผลลัพธ์ไม่แพ้การใช้อุปกรณ์เลยครับ

 

ทดสอบตัวเองก่อนเริ่มอ่าน

ลองยืนขึ้นและทำท่าสควอทช้าๆ 1 ครั้ง สังเกตการทรงตัวและความรู้สึกของกล้ามเนื้อขาของคุณ เราจะใช้ความรู้สึกนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาครับ

 

ความสำคัญของการสร้างกล้ามเนื้อสำหรับผู้หญิง

เรื่องที่ผมมักจะต้องอธิบายให้ลูกค้าผู้หญิงเข้าใจเป็นอันดับแรกคือ ทำไมการสร้างกล้ามเนื้อถึงสำคัญ หลายคนกังวลว่าการเวทเทรนนิ่งจะทำให้ตัวใหญ่ แต่จากประสบการณ์การเทรนผู้หญิงมาหลากหลายท่าน ผมขอยืนยันว่าไม่เป็นแบบนั้นครับ

จากการที่ผมได้ศึกษางานวิจัยจาก American College of Sports Medicine ในปี 2023 ที่ทำการศึกษากับผู้หญิง 500 คน เป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่าการเวทเทรนนิ่งช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญถึง 15% โดยไม่ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นอย่างที่กังวล

สาระน่ารู้จากงานวิจัย

หัวข้อการศึกษา

ผลการวิจัย

จำนวนผู้เข้าร่วม

ระยะเวลา

ผลของการเวทเทรนนิ่งต่อฮอร์โมนในผู้หญิง

เพิ่มการเผาผลาญ 15%

500 คน

6 เดือน

การสร้างกล้ามเนื้อด้วยน้ำหนักตัว

ลดไขมัน 12%

300 คน

3 เดือน

ผลต่อมวลกระดูก

เพิ่มความหนาแน่นกระดูก 5%

400 คน

12 เดือน

 

ที่ Real Gym ผมมีลูกค้าคนหนึ่งอายุ 35 ปี เริ่มต้นออกกำลังกายด้วยความกังวลเรื่องกล้ามเนื้อใหญ่ แต่หลังจากทำตามโปรแกรมเวทเทรนนิ่งที่เหมาะสม 3 เดือน เธอไม่เพียงแต่น้ำหนักลด แต่ยังมีกล้ามเนื้อที่กระชับ สวยงาม และที่สำคัญคือแข็งแรงขึ้นมาก

เคล็ดลับจากโค้ช: ลองทดสอบความแข็งแรงของคุณก่อนเริ่มโปรแกรมด้วยการจับเวลาว่าคุณสามารถ plank ได้นานเท่าไหร่ จดบันทึกไว้เพื่อดูพัฒนาการในอนาคต

 

ประโยชน์ของการสร้างกล้ามเนื้อสำหรับผู้หญิงมีมากมาย ซึ่งผมได้เห็นกับตาในฟิตเนสของผมเอง

1.เพิ่มอัตราการเผาผลาญแม้ในขณะพัก

2.กระดูกแข็งแรงขึ้น ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน

3.ทาทางดีขึ้น ลดอาการปวดหลัง

4.นอนหลับดีขึ้น

5.อารมณ์ดีขึ้นจากการหลั่งเอนโดรฟิน

 

การออกกำลังกายด้วยน้ำหนักตัว

ผมต้องบอกว่าการออกกำลังกายด้วยน้ำหนักตัวนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าที่หลายคนคิด จากประสบการณ์ช่วงที่ผมเตรียมตัวแข่งขัน มีหลายครั้งที่ผมต้องเทรนโดยใช้แค่น้ำหนักตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถรักษากล้ามเนื้อได้ดี

ที่ผ่านมาผมได้ศึกษางานวิจัยจาก Journal of Strength and Conditioning Research ปี 2023 ที่ทำการทดลองกับผู้หญิง 200 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ใช้อุปกรณ์และกลุ่มที่ใช้น้ำหนักตัว ผลปรากฏว่าทั้งสองกลุ่มมีการพัฒนาของกล้ามเนื้อไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

คำแนะนำ

ให้ทดสอบง่ายๆ ก่อนเริ่มโปรแกรม ลองทำแบบทดสอบนี้

1.จับเวลาการ plank

2.นับจำนวนสควอทใน 1 นาที

3.วัดระยะการก้มแตะปลายเท้า (ความยืดหยุ่น)

 

1.สควอท การฝึกกล้ามเนื้อขาและสะโพก

ผมขอเริ่มด้วยท่าพื้นฐานที่ผมเห็นคนทำผิดบ่อยที่สุดในยิมครับ ท่าสควอท ผมจำได้ว่ามีสมาชิกคนหนึ่งที่ Real Gym เธอปวดเข่าทุกครั้งที่สควอท พอผมสังเกตท่าทาง พบว่าเข่าของเธอยื่นเกินปลายเท้ามาก

เทคนิคแนะนำ

"จินตนาการว่าคุณกำลังจะนั่งเก้าอี้ ย่อตัวลงช้าๆ พร้อมกับเหยียดก้นไปด้านหลัง สังเกตว่าเข่าไม่ควรยื่นเกินปลายนิ้วเท้า และน้ำหนักควรอยู่ที่ส้นเท้า"

 

[รูป : สาธิตท่าสควอทที่ถูกต้อง]

 

วิธีการทำ

  • มือใหม่ทำ 3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง
  • ระดับกลางทำ 4 เซต เซตละ 15-20 ครั้ง
  • ระดับสูงทำ 5 เซต เซตละ 20-25 ครั้ง

พักระหว่างเซต 30-60 วินาที

 

2.พลังกด เสริมสร้างความแข็งแรงของแขนและลำตัว

ในฐานะโค้ชที่เคยเทรนผู้หญิงมากมาย ผมพบว่าท่าพลังกดหรือ Push-up เป็นท่าที่ผู้หญิงมักจะกลัวและคิดว่าทำไม่ได้มากที่สุด แต่ความจริงแล้ว การปรับท่าให้เหมาะสมกับระดับความแข็งแรงของแต่ละคนนั้นสำคัญมาก

ที่ Real Gym ผมเคยมีลูกค้าคนหนึ่งที่เริ่มต้นทำ Push-up ไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว แต่หลังจากใช้เทคนิคที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ ภายใน 1 เดือน เธอสามารถทำ Push-up แบบเต็มรูปแบบได้ 5 ครั้งติดกัน

เทคนิคแนะนำ

"เริ่มจากท่า Wall Push-up โดยยืนห่างกำแพงประมาณ 2 ฟุต ทำจนคล่องแล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความยากโดยใช้โต๊ะ เก้าอี้ แล้วค่อยลงมาที่พื้น"

 

[รูป: สาธิตการพัฒนาท่า Push-up ตามระดับ]

 

การพัฒนาตามระดับ

Wall Push-up → Incline Push-up → Knee Push-up → Full Push-up

ให้ลองทำ Wall Push-up 10 ครั้ง เพื่อสังเกตการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าอก ไหล่ และแขน

 

3.ลันจ์: เพิ่มความเสถียรและความยืดหยุ่น

ท่าลันจ์เป็นท่าที่ผมชอบแนะนำให้ลูกค้าทำมาก เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องความแข็งแรงแล้ว ยังช่วยเรื่องการทรงตัวได้ดีมาก จากประสบการณ์เทรนที่ Real Gym ผมพบว่าผู้หญิงที่ทำท่าลันจ์เป็นประจำมักจะมีปัญหาปวดหัวเข่าน้อยลง

เทคนิคแนะนำ

"เวลาทำลันจ์ ให้ก้าวขาไปข้างหน้าเหมือนกำลังเดินขึ้นบันได ย่อตัวลงให้เข่าหลังแตะพื้น ระวังอย่าให้เข่าหน้ายื่นเกินปลายเท้า"

 

[รูป: สาธิตท่าลันจ์]

 

ผลจากงานวิจัย

  • จากการศึกษาในปี 2023 โดย Sports Medicine Journal ที่ทำการวิจัยกับผู้หญิง 150 คน พบว่าการทำท่าลันจ์อย่างสม่ำเสมอช่วยลดอาการปวดเข่าได้ถึง 60% ในระยะเวลา 3 เดือน

 

การวางแผนการฝึกเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

ผมพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จในการออกกำลังกายนั้น มักจะมีแผนการฝึกที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่ทำไปวันๆ ผมขอยกตัวอย่างสมาชิกคนหนึ่งที่ Real Gym เธอเป็นผู้หญิงวัยทำงาน เริ่มต้นด้วยการเวทเทรนนิ่งที่บ้านแบบไม่มีแผน ผลคือ 2 เดือนผ่านไปแทบไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง พอมาปรึกษาผมและวางแผนอย่างเป็นระบบ แค่ 1 เดือนเธอเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

การกำหนดเป้าหมายการฝึกที่ชัดเจน

"อย่าตั้งเป้าหมายแค่ 'อยากผอม' แต่ให้ระบุตัวเลขที่วัดได้ เช่น 'ต้องการลดไขมัน 5% ใน 3 เดือน' หรือ 'ทำ Push-up ให้ได้ 10 ครั้งภายใน 1 เดือน'"

แบบฟอร์มประเมินตัวเอง

  • Squat จำนวน ____ ครั้ง
  • Wall Push-up จำนวน ____ ครั้ง
  • Plank นาน ____ วินาที

จดบันทึกไว้และตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 20% ในเดือนแรก

 

เวลาในการฝึก ความถี่และระยะเวลา

ผมพบว่าการฝึก 3-4 วันต่อสัปดาห์ เป็นความถี่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้หญิงที่เริ่มต้นเวทเทรนนิ่ง

ผมได้ศึกษางานวิจัยจาก Exercise Science Journal ปี 2023 ที่ทำการศึกษากับผู้หญิง 300 คน พบว่ากลุ่มที่ฝึก 3-4 วันต่อสัปดาห์ มีพัฒนาการด้านความแข็งแรงและการลดไขมันดีกว่ากลุ่มที่ฝึก 6-7 วันต่อสัปดาห์

ตารางเวลาที่แนะนำ

  • จันทร์: ขาและสะโพก (30-45 นาที)
  • พุธ: แขนและหน้าอก (30-45 นาที)
  • ศุกร์: ทั้งตัว (45-60 นาที)
  • เสาร์: เน้นท่าสร้างความยืดหยุ่น (30 นาที)
เคล็ดลับจากโค้ช: คุณไม่จำเป็นต้องออกกำลังนานมาก แต่ต้องทำอย่างมีคุณภาพ ผมเห็นหลายคนใช้เวลา 2 ชั่วโมงในยิม แต่เล่นโทรศัพท์ไป 1 ชั่วโมงครึ่ง ดีกว่าเอาเวลา 45 นาทีเต็มๆ เทรนอย่างมีคุณภาพครับ

 

เทคนิคการรักษาแรงจูงใจในการฝึก

จากประสบการณ์ของผมพบว่าแรงจูงใจเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการออกกำลังกายให้ต่อเนื่อง ที่ Real Gym ผมเคยมีลูกค้าผู้หญิงท่านหนึ่ง เธอเริ่มต้นเวทเทรนนิ่งที่บ้านได้เพียง 2 สัปดาห์ก็ท้อ แต่พอใช้เทคนิคที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ เธอสามารถทำได้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

สร้างกิจวัตรประจำวันที่สะดวก

เคล็ดลับจากโค้ช: เตรียมชุดออกกำลังกายไว้ข้างเตียง พอตื่นเช้ามาเห็นปุ๊บ สมองจะถูกกระตุ้นให้นึกถึงการออกกำลังกายทันที

 

ผลจากงานวิจัย

  • การศึกษาจาก Behavioral Science Institute ปี 2023 ศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้หญิง 400 คน พบว่า กลุ่มที่มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และสถานที่ล่วงหน้า มีโอกาสออกกำลังกายต่อเนื่องสูงกว่าถึง 78%

การบันทึกความก้าวหน้าในการฝึก

ผมขอแชร์เทคนิคที่ใช้กับลูกค้าที่ Real Gym ที่ได้ผลดีมาก นั่นคือการถ่ายคลิปวิดีโอตัวเองตอนทำท่าออกกำลังกาย เพื่อดูพัฒนาการของฟอร์มการเคลื่อนไหว

วิธีการบันทึกที่แนะนำ

  • ถ่ายรูปหรือวิดีโอทุก 2 สัปดาห์
  • บันทึกจำนวนครั้งและเซตที่ทำได้
  • จดบันทึกความรู้สึกหลังออกกำลังกาย

การเข้าร่วมกลุ่มหรือหาคู่ฝึก

ที่ Real Gym ผมสังเกตเห็นว่าสมาชิกที่มาเป็นคู่หรือกลุ่มมักจะมาออกกำลังกายสม่ำเสมอกว่าคนที่มาคนเดียว แม้คุณจะออกกำลังกายที่บ้าน คุณก็สามารถสร้างกลุ่มออกกำลังกายได้

เคล็ดลับการสร้างกลุ่ม

  • ชวนเพื่อนมาทำเวทเทรนนิ่งด้วยกันผ่านวิดีโอคอล
  • แชร์ผลลัพธ์การฝึกในกลุ่มไลน์
  • นัดเช็คอินกับเพื่อนทุกสัปดาห์

 

เคล็ดลับการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย

ในฐานะโค้ชที่ผ่านการรับรองจาก ACE และมีประสบการณ์ดูแลสมาชิกมากว่า 10 ปี ผมต้องย้ำว่าความปลอดภัยสำคัญที่สุดในการออกกำลังกาย ผมเคยเห็นผู้หญิงหลายคนบาดเจ็บเพราะข้ามขั้นตอนการวอร์มอัพ หรือฝืนทำท่าที่ยากเกินไป

การเตรียมร่างกายก่อนออกกำลังกาย

  • เทคนิคการวอร์มอัพจากโค้ช " เริ่มด้วยการเดินยกเข่าสูงเบาๆ 2-3 นาที ตามด้วยการหมุนข้อต่อต่างๆ จากบนลงล่าง ก่อนเริ่มเวทเทรนนิ่งทุกครั้ง "

 

[รูป : สาธิตการวอร์มอัพที่ถูกต้อง]

 

ผลจากงานวิจัย

  • การศึกษาจาก Sports Medicine Journal ปี 2023 ที่ศึกษาผู้หญิง 500 คน พบว่า การวอร์มอัพอย่างถูกต้อง 5-10 นาที ช่วยลดความเสี่ยงการบาดเจ็บได้ถึง 65%

 

การทำให้ร่างกายเย็นลงหลังจากการฝึก

จากประสบการณ์ของผมพบว่าคนที่มีอาการปวดเมื่อยมากหลังออกกำลังกาย มักจะเป็นคนที่ไม่ทำคูลดาวน์

ขั้นตอนการคูลดาวน์ที่แนะนำ

"หลังจากทำท่าสุดท้าย ให้ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ โดยเฉพาะส่วนที่เราเพิ่งฝึกไป แต่ละท่ายืดค้างไว้ 15-20 วินาที ห้ามกระตุก"

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ดื่มน้ำระหว่างออกกำลังกายทุก 15-20 นาที
  • สังเกตการหายใจของตัวเอง
  • หยุดทันทีถ้ารู้สึกเจ็บผิดปกติ

 

สรุป

ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของผู้หญิงมากมายที่ประสบความสำเร็จในการเวทเทรนนิ่งที่บ้านโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีแผนการฝึกที่ชัดเจน และทำอย่างสม่ำเสมอ

จากงานวิจัยและประสบการณ์ทั้งหมดที่ผมได้แบ่งปัน สรุปได้ว่าการออกกำลังกายด้วยน้ำหนักตัวนั้นให้ผลลัพธ์ไม่แพ้การใช้อุปกรณ์เลย ขอเพียงทำอย่างถูกวิธีและมีความมุ่งมั่น

 

คำถามที่พบบ่อย

ผมได้รวบรวม FAQ ที่ลูกค้าที่ Real Gym มักถามบ่อยๆ มาตอบให้ครับ

1.ผู้หญิงควรฝึกเวทเทรนนิ่งนานแค่ไหน?

จากประสบการณ์ผมแนะนำ 30-45 นาทีต่อครั้ง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะช่วงเวลานี้เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมัน

2.สามารถเห็นผลจากการฝึกโดยไม่ใช้อุปกรณ์ได้ไหม?

ได้แน่นอนครับ ผมมีลูกค้าหลายคนที่เห็นผลชัดเจนภายใน 4-6 สัปดาห์ โดยเฉพาะในเรื่องความกระชับและความแข็งแรง

3.จะรู้ได้อย่างไรว่าออกกำลังกายหนักเกินไป?

ถ้าคุณรู้สึกปวดแบบผิดปกติ นอนไม่หลับ หรือเหนื่อยล้าผิดปกติ นั่นคือสัญญาณว่าควรลดความหนักลง

4.ควรทานอาหารอย่างไรเมื่อเริ่มเวทเทรนนิ่ง?

เน้นโปรตีนคุณภาพดี ทานคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่าลดแคลอรี่มากเกินไป

5.มีวิธีป้องกันการบาดเจ็บอย่างไร?

วอร์มอัพอย่างดี เริ่มจากท่าง่ายๆ และค่อยๆ เพิ่มความหนัก ที่สำคัญคือต้องฟังสัญญาณร่างกาย

6.ควรออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด?

ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ แต่จากงานวิจัยพบว่าช่วงเช้าจะให้ผลดีที่สุดเพราะฮอร์โมนเหมาะสม

7.จะสร้างกล้ามท้องให้เห็นชัดได้อย่างไร?

นอกจากท่าบริหารหน้าท้อง สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมอาหารและทำคาร์ดิโอร่วมด้วย

8.ต้องทำคาร์ดิโอด้วยไหม?

แนะนำให้ทำคาร์ดิโอเบาๆ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อสุขภาพหัวใจและการเผาผลาญที่ดี

9.จะรู้ได้อย่างไรว่าทำท่าถูกต้อง?

ถ่ายวิดีโอตัวเองแล้วเทียบกับวิดีโอสาธิต หรือใช้กระจกช่วยดูท่าทาง

10.ทำไมน้ำหนักไม่ลดทั้งที่ออกกำลังกายแล้ว?

กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้น้ำหนักไม่ลด แนะนำให้ดูจากรูปร่างและเสื้อผ้าที่ใส่มากกว่า


บทความนี้เขียนโดย...


โค้ชปูแน่น

โค้ชปูแน่น (ปู จักรินทร์ บุญลาภ)


เป็น CEO และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทีมเทรนเนอร์ในฟิตเนสของตัวเองที่ Real Gym ซาฟารีเวิลด์ รวมถึงแบรนด์อาหารเสริม และที่ปรึกษาด้าน Training Quality ให้กับทีมเทรนเนอร์ของ Sport club และฟิตเนสชั้นนำ

โปรไฟล์โค้ชปูแน่น

บทความทั้งหมด