ซูโม่: ศิลปะการต่อสู้และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

ซูโม่ เป็นมากกว่ากีฬาการต่อสู้ของญี่ปุ่น แต่เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน กีฬาโบราณนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,500 ปี และยังคงเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน ซูโม่ ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันระหว่างนักกีฬาที่มีร่างกายใหญ่โตเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงจิตวิญญาณ ความเคารพ และวินัยอันเข้มงวด

ประวัติศาสตร์และต้นกำเนิด

ซูโม่ มีรากฐานมาจากพิธีกรรมทางศาสนาชินโตในสมัยโบราณ โดยเชื่อว่าการต่อสู้ระหว่างนักมวยปล้ำเป็นการบูชาเทพเจ้าเพื่อขอพรให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ในยุคนารา (710-794) ซูโม่ เริ่มพัฒนาเป็นศิลปะการต่อสู้และกีฬา มีการจัดการแข่งขันในราชสำนักเพื่อความบันเทิงของชนชั้นสูง ต่อมาในสมัยเอโดะ (1603-1867) ซูโม่ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไป และมีการจัดตั้งสมาคมซูโม่อย่างเป็นทางการ

กฎและเทคนิคการต่อสู้

การแข่งขันซูโม่จัดขึ้นบนเวทีวงกลมที่เรียกว่า "โดเฮียว" ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4.55 เมตร นักซูโม่ต้องพยายามผลักหรือโยนคู่ต่อสู้ออกนอกวง หรือทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคู่ต่อสู้แตะพื้นนอกจากเท้า การแข่งขันมักจบลงภายในไม่กี่วินาทีหรือนาที แต่ก่อนเริ่มการต่อสู้จริง นักซูโม่จะใช้เวลาหลายนาทีในการทำพิธีกรรมและเตรียมความพร้อมทางจิตใจ

เทคนิคการต่อสู้ในซูโม่มีหลากหลาย เช่น การผลัก (oshidashi) การโยน (nage) และการกวาด (kekaeshi) นักซูโม่ต้องฝึกฝนทั้งพละกำลัง ความยืดหยุ่น และกลยุทธ์การต่อสู้ เพื่อใช้น้ำหนักตัวและแรงเฉื่อยให้เป็นประโยชน์ในการเอาชนะคู่ต่อสู้

วิถีชีวิตและการฝึกซ้อม

นักซูโม่อาชีพ หรือที่เรียกว่า "ริกิชิ" มีวิถีชีวิตที่เคร่งครัดและมีระเบียบวินัยสูง พวกเขาอาศัยอยู่ในสำนักซูโม่ที่เรียกว่า "เฮยะ" ซึ่งมีกฎระเบียบเข้มงวด นักซูโม่มือใหม่ต้องทำงานบ้านและดูแลรุ่นพี่ ในขณะที่ฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวัน

การฝึกซ้อมของนักซูโม่เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ และมักจะรวมถึงการฝึกความยืดหยุ่น การฝึกเทคนิคการต่อสู้ และการซ้อมต่อสู้จริง อาหารหลักของนักซูโม่คือ "ชันโคนาเบะ" ซึ่งเป็นสตูเนื้อและผักที่มีแคลอรี่สูง ช่วยให้พวกเขาเพิ่มน้ำหนักและรักษาร่างกายขนาดใหญ่

ลำดับชั้นและการแข่งขัน

ในวงการซูโม่มีระบบลำดับชั้นที่ซับซ้อน โดยนักซูโม่จะได้รับการจัดอันดับตามผลงานในการแข่งขัน ตำแหน่งสูงสุดคือ "โยโกซุนะ" ซึ่งเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูงในสังคมญี่ปุ่น

การแข่งขันซูโม่ระดับมืออาชีพจัดขึ้น 6 ครั้งต่อปี แต่ละครั้งใช้เวลา 15 วัน เรียกว่า "บาชโชะ" ในแต่ละวันของการแข่งขัน นักซูโม่จะต่อสู้เพียงหนึ่งครั้ง ผลการแข่งขันจะส่งผลต่อการเลื่อนหรือลดตำแหน่งของนักซูโม่

วัฒนธรรมและความเชื่อ

ซูโม่มีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับศาสนาชินโต พิธีกรรมต่างๆ ในการแข่งขันสะท้อนถึงความเชื่อนี้ เช่น การโปรยเกลือเพื่อชำระล้างสนาม หรือการตบเท้าเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ชุดของนักซูโม่ เช่น ผ้าคาดเอว "มาวาชิ" ก็มีความหมายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

นอกจากนี้ ซูโม่ยังมีบทบาทสำคัญในสังคมญี่ปุ่น นักซูโม่ชั้นสูงมักได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานสำคัญทางวัฒนธรรมและการกุศล พวกเขาเป็นแบบอย่างของความอดทน ความเคารพ และความมุ่งมั่น ซึ่งเป็นคุณค่าที่สำคัญในสังคมญี่ปุ่น

ปัจจุบัน แม้ว่าซูโม่จะเผชิญกับความท้าทายในการดึงดูดคนรุ่นใหม่ แต่ก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น การแข่งขันยังคงได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ และมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์

ซูโม่ไม่เพียงแต่เป็นกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของญี่ปุ่น การศึกษาและเข้าใจซูโม่จึงเป็นหนทางหนึ่งในการเข้าถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีความลึกซึ้งและน่าสนใจ

อ้างอิงภาพจาก:

• https://www.economist.com/asia/2018/04/14/why-women-are-not-allowed-in-sumo-rings-even-to-save-a-life
• https://www.bbc.com/news/world-asia-42178483
• https://edition.cnn.com/travel/article/tokyo-sumo-stables/index.html