รวมทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Powerlifting

สำหรับกีฬายกน้ำหนักเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักในระดับนานาชาติ เรียกได้ว่าทีมชาติไทยก็สามารถทำผลงานได้ดีอย่างสม่ำเสมอตลอดมา และอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่มักสร้างความสับสนให้กับผู้คนได้จำนวนมาก นั่นก็คือ ‘Powerlifting’ ในวันนี้ Homefittools พร้อมที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกีฬา Powerlifting กันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

Powerlifting คืออะไร

สำหรับกีฬา Powerlifting เป็นกีฬาที่สามารถเล่นและแข่งขันได้กับบุคคลทั่วไป ทั้งนักกีฬาปกติหรือผู้พิการก็ได้ โดยปกติแล้วกีฬาการแข่งขัน Powerlifting จะแบ่งออกเป็น 3 ท่าหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ Back Squat, Bench Press และ Deadlift โดยจะทำการรวบรวมน้ำหนักสูงสุดของแต่ละท่าเข้าด้วยกัน จากนั้นจึงจะมาจัดลำดับตามน้ำหนักรวมที่ยกได้

โดยการจัดการแข่งขันกีฬา Powerlifting แต่ละครั้งจะถูกแบ่งชนิดของรายการแข่งออกเป็น 2 แบบย่อย ได้แก่ แบบ Raw ซึ่งนักกีฬาแต่ละคนจะถูกจำกัดอุปกรณ์ในการช่วยยก และแบบ Equipped ที่นักกีฬาสามารถใช้อุปกรณ์ช่วยได้อย่างครบถ้วน

ซึ่งการแข่งขันมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมา กีฬา Powerlifting ถูกนำมาใช้แข่งขันเพียงแค่เฉพาะท่า Bench Press ท่าเดียวเท่านั้น โดยให้นักกีฬาแต่ละคนนอนราบบนแผ่นรองรับที่ยกสูงขึ้นมาจากพื้น แล้วค่อย ๆ ลดบาร์ที่ยกลงมาที่หน้าอก ค้างไว้แบบนิ่ง ๆ แล้วจึงค่อยยกกลับขึ้นไปแบบเหยียดแขนให้ตึง ก่อนที่กรรมการจะให้สัญญาณ เพื่อนำบาร์กลับมาวางบนแท่นวางเหมือนเดิม

Powerlifting แตกต่างจากการยกน้ำหนักอย่างไร?

มาถึงตรงนี้หลายคนคงเกิดคำถามและข้อสงสัยเดียวกันว่า “Powerlifting แตกต่างจากการยกน้ำหนักอย่างไร?” เพราะนอกเหนือจากเรื่องของท่าทางการยกแล้ว สิ่งที่สามารถมองเห็นถึงความแตกต่างได้ด้วยตาเปล่าคือความรวดเร็วในการยกของสองชนิดกีฬานี้ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะกีฬายกน้ำหนักจะทำให้นักกีฬาสามารถออกแรงยกจากพื้นแล้วยืดเหยียดเหนือหัวหรือนำขึ้นมาที่หน้าอกได้รวดเร็วเท่าไรก็จะยิ่งช่วยลดแรงที่จำเป็นต้องใช้ลงได้ ตรงนี้เองจะทำให้นักกีฬาสามารถยกน้ำหนักได้เพิ่มมากขึ้น

แต่สำหรับกีฬา Powerlifting การยกน้ำหนักในแต่ละครั้งจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ทั้งในจังหวะการยกน้ำหนักลงหรือดันขึ้นก็ตาม เพราะนักกีฬาจะต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนบนในการแบกรับน้ำหนักของบาร์ แทนที่จะเป็นทุกส่วนของร่างกายเหมือนกับกีฬายกน้ำหนัก

ถึงแม้ว่ากีฬาทั้งสองประเภทนี้จะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการยกน้ำหนักให้ได้มากที่สุดก็ตาม แต่รูปแบบของการฝึกซ้อมจะมีความแตกต่างกันสิ้นเชิง เพราะนักกีฬายกน้ำหนักก็มีขั้นตอนการฝึกซ้อมที่แตกต่างจากนักกีฬา Powerlifting รวมถึงการใช้กล้ามเนื้อคนละส่วนกัน ตลอดไปจนถึงเกณฑ์การตัดสินที่มีรายละเอียดปลีกย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แตกต่างเช่นเดียวกัน

อุปกรณ์ Powerlifting

นอกจากรูปแบบการแข่งขัน กฎกติกาของ Powerlifting กับกีฬายกน้ำหนักที่แตกต่างกันแล้ว การเลือกอุปกรณ์การเล่นอย่างบาร์เบลก็มีความแตกต่างเช่นเดียวกัน โดยบาร์เบลนั้นประกอบไปด้วยหลากหลายประเภท แต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ไปตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งบาร์เบลของ Powerlifting จะแตกต่างกับบาร์เบลประเภทอื่น ๆ อย่างไร ตามไปหาคำตอบกันได้เลย

บาร์ Powerlifting

อย่างที่หลายคนได้รู้กันไปแล้วว่ากีฬา Powerlifting เป็นกีฬาที่ต้องทำการแข่งขันด้วยกันทั้งหมด 3 ท่า ได้แก่ Squat, Bench Press และ Deadlift โดยเป้าหมายของการแข่งขันกีฬาประเภทนี้คือการยกน้ำหนักด้วยท่าเหล่านี้ให้ได้น้ำหนักที่มากที่สุดในจำนวนครั้งแค่เพียง 1 ครั้ง จึงทำให้บาร์เบลที่เหมาะสำหรับกีฬา Powerlifting จะต้องรองรับน้ำหนักได้มากโดยที่ตัวบาร์ไม่มีการโค้งงอแต่อย่างใด และในส่วนของปลอกบาร์จึงไม่มีความจำเป็นต้องหมุนได้สักเท่าไร โดยคุณสมบัติของบาร์ Powerlifting มีดังนี้

คุณสมบัติบาร์ Powerlifting

แกนบาร์มีความหนาแน่น เพื่อการจับที่ถนัดมือที่สุด

ลูกปืนแบบ Bush เพื่อให้การหมุนของบาร์เกิดความเหมาะสม

มีรอยมาร์กตำแหน่งการจับบาร์แค่เพียง 1 จุด

รอยบากกันลื่นจะมีความลึกมากกว่าบาร์ปกติทั่วไป เพื่อให้สามารถจับถือได้อย่างมั่นคง

มีรอยบากกันลื่นตรงกลางบาร์สำหรับท่า Squat

วัสดุโลหะที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อป้องกันการโค้งงอ

วิธีเลือกบาร์ Powerlifting

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับกีฬา Powerlifting เพิ่มมากขึ้นแล้ว รวมทั้งยังได้รู้ถึงอุปกรณ์บาร์เบลสำหรับการเล่น Powerlifting ต่อมาเพื่อเป็นคู่มือให้กับผู้ที่กำลังสนใจเล่น Powerlifting และกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจเลือกซื้อบาร์เบล Powerlifting ในวันนี้ Homefittools ได้รวบรวมวิธีการเลือกซื้อบาร์เบล Powerlifting เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

วัสดุ

บาร์เบลแต่ละชิ้นถูกผลิตขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน ในส่วนแรกที่ควรให้ความสำคัญคือด้ามจับที่เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างบาร์เบล โดยบาร์เบลทั่วไปจะถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุเหล็กกล้าไร้สนิม เหล็กสปริง เหล็กกล้าผสม และเหล็กกล้าคาร์บอน ซึ่งโลหะแต่ละประเภทมีค่า PSI ความทนต่อแรงดึงและความร้อนในการชุบที่ต่างกัน ค่า PSI จะอยู่ในช่วง 190K - 240K ขึ้นอยู่กับประเภทของการฝึก การเลือกบาร์ที่เหมาะสมจะเป็นการช่วยยืดระยะการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาวนานขึ้น

ปลอกและลูกปืน

ปลอกของบาร์เบลจะใช้ใส่แผ่นน้ำหนักบนบาร์ ซึ่งจะทำงานร่วมกับลูกปืนที่มีระบบต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป โดยลูกปืนมี 2 ประเภท ได้แก่ ลูกปืนแบบ Bush Bearing และตลับลูกปืนแบบ Pin Bearing ซึ่งมีจุดประสงค์ในการสร้างแรงหมุนขณะยก ช่วยให้ง่ายต่อการควบคุม

พื้นผิว

ส่วนสุดท้ายที่ควรให้ความสำคัญในการเลือกคือพื้นผิว โดยพื้นผิวของบาร์เบลมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบชุบโครเมียม ชุบสังกะสี ชุบเซรามิก หรือเหล็กกล้าไร้สนิม ส่วนนี้เองสามารถเลือกได้ตามความชอบส่วนตัว เพราะเป็นเพียงแค่การป้องกันการเกิดสนิม เพื่อให้บาร์เบลสามารถใช้งานได้ในระยะยาว

สรุปบทความ Powerlifting

สุดท้ายนี้ เชื่อว่าหลายคนคงได้ทำความรู้จักกับ Powerlifting กันเพิ่มมากขึ้นแล้ว รวมทั้งวิธีการเลือกซื้อบาร์เบล Powerlifting ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากบาร์เบลไม่ใช่แท่งเหล็กธรรมดาที่สามารถนำเหล็กอะไรก็ได้มาใช้งาน เพราะบาร์เบลประกอบไปด้วยหลายส่วนที่มีความซับซ้อนที่ต้องใช้การคัดเลือกมากเป็นพิเศษ หากใครที่กำลังให้ความสนใจเลือกซื้อบาร์เบล Powerlifting สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ Homefittools แหล่งรวบรวมอุปกรณ์ออกกำลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนสมาตรฐานระดับโลก พร้อมประกันสินค้า และบริการหลังการขายที่ให้บริการลูกค้าทุกคนอย่างครบวงจร