ติดต่อเจ้าหน้าที่
เครื่องออกกำลังกาย อุปกรณ์ออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส
view-th view-en
ตะกร้า 0 ตะกร้าสินค้า

กระโดดเชือก: การออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลากหลาย

กระโดดเชือก: การออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลากหลาย

สวัสดีครับ ผมโค้ชปูแน่น จากประสบการณ์เป็นเทรนเนอร์มากกว่า 14 ปี วันนี้ผมจะมาแชร์เรื่องกระโดดเชือกแบบละเอียด การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายที่ผมใช้ฝึกลูกค้ามาแล้วมากกว่าพันคน และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะลูกค้าที่มีเวลาจำกัดหรือไม่สะดวกไปฟิตเนส

ผมเองก็ใช้การกระโดดเชือกเป็นหลักในการเตรียมตัวแข่งขัน เพราะมันช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีมาก ทำให้กล้ามเนื้อชัดและสัดส่วนสวยงาม จนคว้าแชมป์หลายรายการ หลายคนสงสัยว่ากระโดดเชือกวันละกี่ครั้ง หรือกระโดดเชือก 100 ครั้งจะได้ผลจริงไหม วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจทั้งหมดครับ


ประโยชน์ของการกระโดดเชือก

ประโยชน์ของการกระโดดเชือก

จากประสบการณ์ฝึกสอนมา 14 ปี ผมพบว่าการกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายที่ทรงพลังมาก ผมมักแนะนำให้ลูกค้าที่ต้องการลดน้ำหนักเริ่มต้นด้วยการกระโดดเชือก เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลลัพธ์เร็วที่สุดวิธีหนึ่ง การกระโดดเชือกมีประโยชน์มากมายที่ส่งเสริมสุขภาพในหลายๆ ด้าน

เผาผลาญแคลอรี่

การกระโดดเชือก สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากถึง 1,300 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าการวิ่งหรือปั่นจักรยานอย่างเห็นได้ชัด ผมเคยทดสอบกับลูกค้าหลายคนพบว่า แค่กระโดดเชือกวันละ 10 นาที แคลอรี่ที่เผาผลาญเทียบเท่ากับการวิ่ง 1.6 กิโลเมตรในเวลา 8 นาที

ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าของผมคนหนึ่งเริ่มจากการกระโดดเชือกวันละ 5 นาที และค่อยๆ เพิ่มเป็น 10 นาที สามารถลดน้ำหนักได้ 5 กิโลกรัมในเวลาเพียง 1 เดือน โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอาหารมากนัก

ในฐานะที่ผมเป็นทั้งโค้ชและนักกีฬา ผมใช้การกระโดดเชือกเป็นหลักในการเตรียมตัวก่อนแข่งขันเสมอ เพราะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กล้ามเนื้อเด่นชัด โดยเฉพาะช่วงขา หน้าท้อง และหัวไหล่

บทความที่เกี่ยวข้อง : กระโดดเชือกอย่างไรให้น้ำหนักลด

เพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและหลอดเลือด

การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยพัฒนาระบบหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเราเริ่มกระโดดเชือกวันละกี่นาที ร่างกายจะมีการปรับตัว หัวใจจะเต้นแรงขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่ใช้งาน โดยเฉพาะช่วงขาและแขน

การกระโดดเชือก 100 ครั้งอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ร่างกายได้ออกกำลังแบบคาร์ดิโอเต็มรูปแบบ หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หัวใจแข็งแรงขึ้น ปอดทำงานได้ดีขึ้น และระบบไหลเวียนเลือดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ การกระโดดเชือกวันละกี่ครั้งอย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะการออกกำลังกายแบบแอโรบิกช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ทำให้หลอดเลือดยืดหยุ่นดี เลือดไหลเวียนสะดวก

เมื่อเราฝึกกระโดดเชือกอย่างต่อเนื่อง จะสังเกตได้ว่าความอึดของร่างกายดีขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย หายใจได้ยาวขึ้น และสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกเพลีย นี่คือสัญญาณที่แสดงว่าระบบหัวใจและหลอดเลือดของเราแข็งแรงขึ้น

เลือกช็อปเชือกกระโดดคุณภาพสูงได้ที่นี่ คลิกเลย !


อุปกรณ์ออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้



เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก

การกระโดดเชือกไม่เพียงช่วยเผาผลาญแคลอรี่ แต่ยังเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและกระดูกอย่างทั่วถึง การกระโดดเชือกจะทำให้กล้ามเนื้อขา น่อง และต้นขาได้ทำงานเต็มที่ ในขณะที่แรงกระแทกเบาๆ จากการกระโดดจะกระตุ้นให้กระดูกสร้างเนื้อกระดูกใหม่ทดแทนส่วนที่สึกหรอ

การกระโดดเชือก 100 ครั้งช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลายส่วนพร้อมกัน ทั้งกล้ามเนื้อน่อง ต้นขา สะโพก แกนกลางลำตัว และหัวไหล่ แต่ละครั้งที่กระโดด กล้ามเนื้อจะทำงานประสานกันเพื่อรักษาสมดุล ส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นอย่างสมดุล

สำหรับกระดูก การกระโดดเชือกที่สม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะในช่วงขา สะโพก และกระดูกสันหลัง เพราะแรงกระแทกเบาๆ จากการกระโดดจะกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกใหม่

พัฒนาการประสานงานของร่างกาย

สำหรับการพัฒนาทักษะการประสานงานของร่างกาย ผมในฐานะโค้ชมืออาชีพพบว่า การกระโดดเชือกทุกวันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาการประสานงานระหว่างระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

การเริ่มกระโดดเชือกจะฝึกให้ร่างกายทำงานประสานกันหลายส่วน ทั้งการควบคุมจังหวะมือที่หมุนเชือก การกระโดดของเท้าให้พ้นเชือกในจังหวะที่เหมาะสม การทรงตัวให้สมดุล และการหายใจที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหว

วิธีกระโดดเชือกที่ถูกต้องจะกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งซีกซ้ายและขวา จากการสังเกตลูกค้าที่กระโดดเชือกทุกวัน พบว่ามีพัฒนาการด้านการทรงตัวและการประสานงานดีขึ้นอย่างชัดเจนภายใน 2 เดือน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน

การเริ่มกระโดดเชือกอย่างถูกวิธี กระโดดเชือกยังช่วยพัฒนาทักษะที่ใช้ในชีวิตประจำวันและกีฬาอื่นๆ เช่น การทรงตัว การควบคุมจังหวะ และการหายใจที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว

เพิ่มสมาธิและบำรุงสมอง

การศึกษาจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬา (2023) แสดงให้เห็นว่าการกระโดดเชือกทุกวันส่งผลต่อการทำงานของสมอง โดยแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ

  1. การพัฒนาสมองซีกซ้าย การนับจำนวนครั้งกระโดดเชือกอย่างต่อเนื่องช่วยกระตุ้นสมองซีกซ้ายที่ควบคุมตรรกะและการคำนวณ เมื่อเราต้องนับจังหวะและควบคุมความเร็วในการกระโดด สมองจะทำงานเพื่อประมวลผลตัวเลขและจัดการรูปแบบการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ
  2. การพัฒนาสมองซีกขวา การกระโดดเชือกแบบต่อเนื่องฝึกสมองซีกขวาในด้านความคิดสร้างสรรค์และการประสานงาน เมื่อร่างกายต้องปรับตัวกับจังหวะและรูปแบบการกระโดดที่ซับซ้อน สมองจะพัฒนาการรับรู้เชิงพื้นที่และการเคลื่อนไหว

ผลการวิจัยทางประสาทวิทยา ยังพบว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ต้องใช้การประสานงานสูงอย่างการกระโดดเชือก ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปสู่สมอง ส่งผลให้ความจำและการเรียนรู้ดีขึ้น

ท่ากระโดดเชือกแบบต่างๆ

มีท่ากระโดดเชือกหลากหลายที่สามารถนำมาใช้ในการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพ

1.Basic Single Under ท่าพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

ท่ากระโดดเชือกแบบ Basic Single Under เป็นท่าพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เริ่มกระโดดเชือก เพราะเป็นท่าที่ใช้พลังงานน้อย ทำซ้ำได้นาน และช่วยสร้างพื้นฐานที่ดีก่อนจะทำท่ากระโดดเชือกอื่นๆต่อไป

วิธีทำท่ากระโดดเชือก Basic Single Under

      1. ยืนตัวตรง เท้าชิดติดกัน จับด้ามเชือกให้แนบชิดลำตัว
      2. งอข้อศอกเล็กน้อย ให้ห่างลำตัวประมาณ 4-6 นิ้ว
      3. เริ่มหมุนเชือกโดยใช้ข้อมือเป็นหลัก ไม่ใช้แขนทั้งท่อน
      4. กระโดดพ้นเชือกเพียงเล็กน้อย สูงประมาณ 1/2 นิ้ว
      5. ลงพื้นด้วยปลายเท้า ย่อเข่าเล็กน้อยเพื่อรับแรงกระแทก

Tips! การหายใจถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการกระโดดเชือก ให้หายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก และหายใจออกทางปากเบาๆ เป็นจังหวะ การจ้องมองไปที่จุดใดจุดหนึ่งตรงหน้าจะช่วยให้ทรงตัวได้ดีกว่าการมองลงที่เท้าหรือเชือก เริ่มต้นให้กระโดดช้าๆ เน้นความต่อเนื่องมากกว่าความเร็ว เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นเคยแล้วค่อยเพิ่มความเร็วในการหมุนข้อมือขึ้น 

2.Boxer Step ท่ากระโดดสไตล์นักมวย

Boxer Step เป็นท่าที่ได้รับความนิยมในการกระโดดเชือกแบบต่อเนื่อง เพราะช่วยเพิ่มความคล่องแคล่วและการทรงตัว พร้อมเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าท่ากระโดดเชือกพื้นฐาน

วิธีทำท่ากระโดดเชือก Boxer Step

      1. เริ่มจากท่ายืนเท้าห่างกันประมาณความกว้างของไหล่
      2. กระโดดสลับเท้าซ้าย-ขวา คล้ายการวิ่งอยู่กับที่เบาๆ
      3. ย่ำเท้าเป็นจังหวะ โดยให้น้ำหนักตัวเคลื่อนไปมาระหว่างเท้าทั้งสอง
      4. หมุนเชือกด้วยข้อมือให้สัมพันธ์กับการย่ำเท้า
      5. รักษาจังหวะการกระโดดให้สม่ำเสมอ ไม่เร่งเร็วหรือช้าเกินไป

Tips! จังหวะการหายใจสำคัญมาก หายใจเข้าทางจมูก 2 จังหวะ หายใจออกทางปาก 2 จังหวะ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ รักษาลำตัวให้ตรง อย่าเอนไปมา ย่อเข่าเล็กน้อยทุกครั้งที่ลงพื้นเพื่อลดแรงกระแทก เริ่มจากการกระโดดช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มความเร็วเมื่อควบคุมการทรงตัวได้ดี ท่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความท้าทายจากท่า Basic Single Under

3.Side To Side เทคนิคกระโดดเชือกลดน้ำหนักแบบเพิ่มการเผาผลาญ

Side To Side เป็นท่าที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มกระโดดเชือกแบบเร่งการเผาผลาญ เพราะการเคลื่อนที่ซ้าย-ขวาจะใช้พลังงานมากกว่าการกระโดดอยู่กับที่ถึง 20% ทำให้กระโดดเชือกลดน้ำหนักได้ผลดียิ่งขึ้น

วิธีทำท่ากระโดดเชือก Side To Side

      1. ยืนตัวตรง จัดระยะเชือกให้พอเหมาะกับวิธีกระโดดเชือกแบบเคลื่อนที่
      2. กระโดดสไลด์ไปทางซ้าย ระยะห่างประมาณ 6 นิ้ว
      3. กระโดดกลับมาตรงกลาง ควบคุมการกระโดดเชือกแบบต่อเนื่อง
      4. กระโดดสไลด์ไปทางขวา ระยะห่างเท่ากับด้านซ้าย
      5. รักษาจำนวนครั้งกระโดดเชือกให้สม่ำเสมอในแต่ละจุด

Tips! การควบคุมแกนกลางลำตัวสำคัญมากสำหรับท่า Side To Side โดยเฉพาะเมื่อต้องการกระโดดเชือกลดน้ำหนัก ให้เริ่มจากการกระโดดระยะสั้นๆ ก่อน เมื่อควบคุมการทรงตัวได้ดีแล้วค่อยเพิ่มระยะทาง ย่อเข่ารับแรงกระแทกทุกครั้งที่ลงพื้น และควบคุมจังหวะการหายใจให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ เพื่อให้สามารถกระโดดเชือกแบบต่อเนื่องได้นานขึ้

4.High Knees การกระโดดเชือกลดน้ำหนักแบบนักกีฬามืออาชีพ

ในฐานะ ACE Certified Trainer ผมมักแนะนำท่า High Knees ให้กับนักกีฬาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ เพราะการยกเข่าสูงขณะกระโดดเชือกแบบต่อเนื่องช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าท่าพื้นฐานถึง 30%

วิธีทำท่ากระโดดเชือก High Knees

      1. เริ่มจากท่าวิธีกระโดดเชือกพื้นฐาน ตัวตรง
      2. ยกเข่าขวาขึ้นให้สูงระดับสะโพก
      3. สลับเป็นเข่าซ้าย รักษาจังหวะการกระโดด
      4. รักษาแกนลำตัวให้ตรง ไม่โน้มตัวไปด้านหน้า
      5. ควบคุมจำนวนครั้งกระโดดเชือกให้สัมพันธ์กับการยกเข่า

Tips! จากการทดสอบกับนักกีฬาระดับแข่งขัน การยกเข่าควรสูงอย่างน้อย 90 องศาเพื่อการเผาผลาญที่มีประสิทธิภาพ หายใจเข้าเมื่อยกเข่าขึ้น และหายใจออกเมื่อลดขาลง การรักษาลำตัวให้ตรงช่วยลดการบาดเจ็บที่หลังและเข่า เริ่มจากการทำช้าๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วเมื่อควบคุมการทรงตัวได้ดี

5.Criss-Cross วิธีกระโดดเชือกขั้นสูงเพื่อเร่งการเผาผลาญ

Criss-Cross เป็นท่าที่ท้าทายสำหรับการกระโดดเชือกลดน้ำหนัก เพราะต้องใช้การประสานงานระหว่างแขนและขาสูง

วิธีทำท่ากระโดดเชือก Criss-Cross

      1. ยืนตรง จับเชือกในท่าพื้นฐาน
      2. กระโดดพร้อมไขว้แขนให้เชือกเป็นรูป X
      3. กระโดดอีกครั้ง พร้อมคลายแขนกลับสู่ท่าปกติ
      4. ทำสลับกันไปมาให้เป็นจังหวะ
      5. รักษาจังหวะกระโดดเชือกแบบต่อเนื่อง

Tips! การควบคุมข้อมือสำคัญมากสำหรับท่านี้ ให้ใช้เฉพาะข้อมือในการไขว้เชือก ไม่ใช้แขนทั้งท่อน เริ่มจากการทำช้าๆ เพื่อฝึกการประสานงาน ตามองตรงไปข้างหน้า ไม่มองเชือก จะช่วยให้ทรงตัวได้ดีขึ้น เมื่อเริ่มคล่องแล้วค่อยเพิ่มจำนวนครั้งกระโดดเชือกและความเร็วเทคนิคการกระโดดเชือกสำหรับผู้เริ่มต้น

เทคนิคการกระโดดเชือกสำหรับผู้เริ่มต้น

1. จัดการกับการหายใจ 

  • การเริ่มกระโดดเชือกให้ได้นาน ต้องควบคุมการหายใจให้เป็นจังหวะ หายใจเข้าทางจมูก 2 จังหวะ หายใจออกทางปาก 2 จังหวะ สัมพันธ์กับการกระโดด วิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ ทำให้กระโดดเชือกแบบต่อเนื่องได้นานขึ้น

2. การทรงตัวที่ถูกต้อง 

  • รักษาแกนลำตัวให้ตรง ไม่โน้มไปข้างหน้าหรือด้านหลัง จ้องมองจุดตรงหน้า ไม่ก้มมองเท้า จะช่วยให้วิธีกระโดดเชือกมีความมั่นคง ลดอาการเมื่อยล้าที่คอและหลัง

3. การควบคุมจังหวะ 

  • เริ่มจากการนับจำนวนครั้งกระโดดเชือกเป็นชุดๆ ละ 20 ครั้ง พักสั้น 10 วินาที แล้วเริ่มใหม่ วิธีนี้จะช่วยสร้างความคุ้นเคยกับจังหวะการกระโดดและการหมุนเชือก

4. การใช้ข้อมือที่ถูกต้อง 

  • ใช้เฉพาะข้อมือในการหมุนเชือก ไม่ใช้แขนทั้งท่อน จะช่วยประหยัดพลังงานและทำให้กระโดดเชือกลดน้ำหนักได้นานขึ้น งอข้อศอกแนบลำตัว ไม่กางแขนออกด้านข้าง

5. การพักที่เหมาะสม 

  • แบ่งการฝึกเป็นช่วง ช่วงละ 2-3 นาที พัก 30 วินาที ทำ 5-6 รอบ ดีกว่าการพยายามกระโดดต่อเนื่องนานๆ จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวและพัฒนาความอึดได้ดีขึ้น
วิธีการกระโดดเชือกเพื่อเผาผลาญแคลอรี่

 

วิธีการกระโดดเชือกเพื่อเผาผลาญแคลอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ

การกระโดดเชือกลดน้ำหนักให้ได้ผลดีนั้น ต้องเริ่มจากการเลือกอุปกรณ์และเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถกระโดดเชือกแบบต่อเนื่องได้นาน และเผาผลาญแคลอรี่ได้มากที่สุด

1.การเลือกเชือกที่เหมาะสม

  1. เลือกความยาวให้พอดี: เหยียบกลางเชือก ปลายด้ามควรอยู่ระดับรักแร้
  2. น้ำหนักเชือกพอเหมาะ: ไม่เบาหรือหนักเกินไป ควบคุมจังหวะได้ง่าย
  3. วัสดุคุณภาพดี: แนะนำเชือก PVC หรือ Speed rope สำหรับผู้เริ่มกระโดดเชือก

2.เทคนิคการกระโดดอย่างถูกวิธีกระโดดเชือก

  1. เริ่มต้นด้วยความเร็วปานกลาง กระโดดสูงจากพื้น 1/2 - 1 นิ้ว
  2. ควบคุมการหายใจให้สม่ำเสมอ สัมพันธ์กับจังหวะการกระโดด
  3. เพิ่มความเร็วเมื่อควบคุมจังหวะได้ดี ให้ได้ 130 รอบต่อนาที
  4. รักษาแกนลำตัวให้ตรง ไม่โน้มตัวไปด้านหน้าหรือหลัง

3.กระโดดเชือกวันละกี่นาทีที่เหมาะสม

  1. มือใหม่ เริ่มที่ 5-10 นาทีต่อครั้ง
  2. ระดับกลาง 15-20 นาทีต่อครั้ง
  3. ระดับสูง 30 นาทีขึ้นไปต่อครั้งฤฆ

 

คำถามที่พบบ่อย

1.กระโดดเชือก 100 ครั้ง เผาผลาญแคลอรี่เท่าไร?

  • กระโดดเชือก 100 ครั้งเผาผลาญประมาณ 12-15 แคลอรี่ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและความเข้มข้นในการกระโดด

2.กระโดดเชือกวันละกี่นาทีถึงจะลดน้ำหนัก?

  • ควรกระโดดเชือก 15-20 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 4-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลดน้ำหนัก

3.วิธีกระโดดเชือกที่ถูกต้องทำอย่างไร?

  • ยืนตัวตรง ใช้ข้อมือหมุนเชือก กระโดดสูง 1-2 นิ้ว ลงด้วยปลายเท้า ย่อเข่ารับแรงกระแทก

4.กระโดดเชือกลดน้ำหนัก ได้ผลจริงไหม?

  • ได้ผลจริง สามารถเผาผลาญได้ 1,300 แคลอรี่ต่อชั่วโมง เทียบเท่าการวิ่ง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

5.มือใหม่ควรเริ่มกระโดดเชือกอย่างไร?

  • เริ่มจาก 5 นาที วันละ 2 ครั้ง ใช้ท่าพื้นฐาน เน้นความต่อเนื่องมากกว่าความเร็ว

6.กระโดดเชือกแบบต่อเนื่องนานเท่าไรถึงจะดี?

  • เริ่มต้น 10-15 นาที เพิ่มเป็น 20-30 นาทีเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น

7.กระโดดเชือกช่วยเพิ่มความสูงได้ไหม?

  • ช่วยได้ในวัยเด็กและวัยรุ่น เพราะกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก

8.ควรกระโดดเชือกวันละกี่ครั้ง?

  • เริ่มต้นที่ 300-500 ครั้งต่อวัน เพิ่มเป็น 1,000-1,500 ครั้งเมื่อร่างกายพร้อม

9.กระโดดเชือกมีข้อเสียอะไรบ้าง?

  • อาจกระทบข้อเข่าและข้อเท้าหากท่าไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะกับผู้มีปัญหากระดูกและข้อ

10.ควรกินอะไรก่อนและหลังกระโดดเชือก?

  • ก่อนกระโดด 2 ชั่วโมงควรทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หลังกระโดดควรทานโปรตีนภายใน 30 นาที

 

สรุป

การกระโดดเชือกลดน้ำหนักเป็นการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพสูง เผาผลาญแคลอรี่ได้ดี และเห็นผลเร็ว สำหรับผู้เริ่มต้น การเรียนรู้วิธีกระโดดเชือกที่ถูกต้องและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

เริ่มจากการกระโดดเชือกวันละกี่นาที ที่สามารถทำได้สบายๆ ค่อยๆ เพิ่มจำนวนครั้งกระโดดเชือกและระยะเวลา จนสามารถกระโดดเชือกแบบต่อเนื่องได้นานขึ้น การฝึกอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย พัฒนาระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงเพิ่มความคล่องแคล่วว่องไวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป รับฟังสัญญาณจากร่างกาย และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการกระโดดเชือก


บทความนี้เขียนโดย...


โค้ชปูแน่น

โค้ชปูแน่น (ปู จักรินทร์ บุญลาภ)


เป็น CEO และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทีมเทรนเนอร์ในฟิตเนสของตัวเองที่ Real Gym ซาฟารีเวิลด์ รวมถึงแบรนด์อาหารเสริม และที่ปรึกษาด้าน Training Quality ให้กับทีมเทรนเนอร์ของ Sport club และฟิตเนสชั้นนำ

โปรไฟล์โค้ชปูแน่น

บทความทั้งหมด