ท่าบริหารกล้ามเนื้อหลัง ป้องกันออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) หมายถึง กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อที่พบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะเป็นเวลานาน สาเหตุหลักของออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อหลังตึงและอ่อนล้า ส่งผลให้เกิดอาการปวดและชาตามบริเวณหลัง คอ บ่า และไหล่
สารบัญเนื้อหา
อาการของออฟฟิศซินโดรม
โดยปกติแล้ว อาการของออฟฟิศซินโดรม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้
1. อาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ พบได้บ่อยที่สุด อาการปวดมักมีลักษณะปวดตื้อๆ ปวดแปลบๆ หรือปวดแสบๆ บริเวณหลัง คอ บ่า และไหล่ อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานาน หรือเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย
2. อาการอื่น ๆ ของออฟฟิศซินโดรม ได้แก่
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ชาปลายมือและปลายเท้า
- ปวดศีรษะ
- มองเห็นภาพไม่ชัด
- สมาธิสั้น
อาการของออฟฟิศซินโดรม มักค่อยๆ พัฒนาขึ้น อาการอาจไม่รุนแรงมากในช่วงแรก แต่เมื่ออาการเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดรบกวนชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานไม่สะดวก นอนหลับไม่หลับ เป็นต้น
Tips:
อาการของออฟฟิศซินโดรม มักค่อยๆ พัฒนาขึ้น อาการอาจไม่รุนแรงมากในช่วงแรก แต่เมื่ออาการเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดรบกวนชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานไม่สะดวก นอนหลับไม่หลับ เป็นต้น
วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรม
- การปรับท่าทางในการนั่งให้ถูกต้อง ให้นั่งหลังตรง ไหล่ห้อยลงตามธรรมชาติ วางแขนไว้ข้างตัว หรือวางไว้บนโต๊ะ มุม 90 องศา ปรับระดับเก้าอี้/โต๊ะให้เหมาะสม ให้จอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับเดียวกับสายตา
- ลุกขึ้นยืนหรือเดินบ่อย ๆ ไม่ควรนั่งทำงานติดต่อกันนานเกิน 2 ชั่วโมง ควรลุกขึ้นยืนหรือเดินอย่างน้อย 5-10 นาที ในทุก ๆ 2 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ
- ลดน้ำหนักตัว หากมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อต้องทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้น
- จัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ เสียงดังเกินไป อาจทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อได้
5 ท่ายืดกล้ามเนื้อ ป้องกันการเป็นออฟฟิศซินโดรม
ท่าที่ 1 :นำมือประสานกันไว้ข้างหน้าพลิกข้อมือให้หันไปด้านหน้าทั้ง ๆ ที่ยังประสานมืออยู่ ยืดออกไปให้สุด แล้วดันค้างไว้เป็นเวลา 10-20 วินาที ทำ 2 ครั้ง จะช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนบน ที่มักจะตึงการทำงานนาน
ท่าที่ 2 :นำมือประสานไว้เหนือหัว พลิกข้อมือให้หันไปด้านบนทั้ง ๆ ที่ยังประสานกันอยู่ เหยียดยืดขึ้นจนสุดค้างไว้ 10-20 วินาที ทำ 2 ครั้ง จะชวยคล้ายกล้ามเนื้อหลังและต้นแขน
ท่าที่ 3 :ให้ใช้มือดันหลังส่วนล่าง แล้วยืดตัวแอ่นตัวไปข้างหน้า ค้างไว้ประมาณ 20 นาที ท่าที่จะช่วยคลายกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และกล้ามเนื้ออก ที่มักจะเกิดจากการเกร็งตัวเมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานาน
ท่าที่ 4 :นั่งท่าไขว้ห้างแล้วนำมือดันที่เข่า บิดตัวไปด้านเดียวกับขาเช่น ไขว้ห้างโดยใช้ขาขวาทับขาซ้าย แบบนี้ให้บิดตัวไปด้านขวา ขณะบิดตัวมือที่ดันเข่าก็ดันเพิ่มเพื่อให้ยืดได้ดีที่สุด ค้างไว้ 20 วินาที ทำสองข้าง ท่าบริหารนี้จะผ่อนคลายกล้ามเนื้อข้างลำตัวและสะโพกได้เป็นอย่างดี
ท่าที่ 5 :นำมือไขว่หลังและจับข้อมือไว้ ก้มหน้าลง จากนั้นก้มหน้าลงเอียงคอไปทางด้านขวา ให้ยืดแขนข้างซ้ายไปทางขวา ทำค้างไว้ ประมาณ 10 วินาที จากนั้นสลับข้าง จะช่วยเรื่องคลายกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่
ดูวิดีโอ 5 ท่ายืดกล้ามเนื้อ ป้องกันการเป็นออฟฟิศซินโดรม
ท่าบริหารกล้ามเนื้อป้องกันออฟฟิศซินโดรม
1. ท่า Cat-Cow: เป็นท่าโยคะพื้นฐานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย โดยใช้อุปกรณ์เพียงเล็กน้อยหรือไม่ใช้เลย ท่า Cat-Cow ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่
ประโยชน์ของท่า Cat-Cow
- ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง
- ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย
2. ท่า Bird Dog: เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core) และกล้ามเนื้อหลัง
ประโยชน์ของท่า Bird Dog
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของร่างกาย
- ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บ
- ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย
3. ท่า Superman: เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง กล้ามเนื้อสะโพก และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
ประโยชน์ของท่า Superman
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของร่างกาย
- ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บ
- ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย
4. ท่า Cobra: เป็นท่าโยคะพื้นฐานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย โดยใช้อุปกรณ์เพียงเล็กน้อยหรือไม่ใช้เลย ท่า Cobra ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังและคอ
ประโยชน์ของท่า Cobra
- ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังและคอ
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง
- ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย
ท่า Bridge: ท่า Bridge หรือท่ายกสะโพก เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อก้น กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และกล้ามเนื้อ
ประโยชน์ของท่า Bridge
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อก้น
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของร่างกาย
- ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บ
- ช่วยปรับสมดุลของร่างกายแกนกลางลำตัว
สรุป
ท่าบริหารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่ ช่วยลดอาการปวดและตึงของกล้ามเนื้อหลัง ช่วยให้ท่าทางในการนั่งดีขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดออฟฟิศซินโดรม ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ และช่วยให้จิตใจแจ่มใส ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Powered by Mirasvit Magento 2 Extensions
- ฟังโค้ชตัวจริงว่าออกกำลังกายตอนเช้าดีอย่างไร ทำไมต้องเริ่มต้นวันด้วยการออกกำลังกาย
- วิธีเล่นท่า Dumbbell Bench Press พร้อมวิดีโอสาธิต อัปเดต 2025 - โค้ชออตโต้
- วิธีเล่นท่า Dumbbell Fly พร้อมวิดีโอสาธิต อัปเดต 2025 - โค้ชออตโต้
- วิธีเล่นท่า Standing Dumbbell Biceps Curls พร้อมวิดีโอสาธิต อัปเดต 2025 - โค้ชออตโต้
- หน้าท้องแบนราบ ด้วยการออกกำลังกาย Pilates 15 นาทีต่อวัน